เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ เป็นสิ่งที่ทุกคน ไม่อยากจะให้เกิดกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นโรคหนัก หรือเบาก็ตาม อย่างที่คำเขาบอกกันเอาไว้ว่า การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ คนที่ไม่มีโรคอะไรเลย ถือว่าเป็นคนที่โชคดี ยิ่งว่าการถูกหวยเสียอีก เพราะมันสามารถที่จะทำอะไรได้มากมายในชีวิต และต่อให้เรามีเงินมากแค่ไหน แต่ถ้าเป็นคนที่เจ็บป่วยบ่อย โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า มันก็เป็นความรวย ที่ไม่มีความสุขแน่นอน

อย่างโรคที่เราเห็นกันบ่อยๆ หรือหลายคนคงจะเคยเห็นข่าว เหตุการณ์เกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตกกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกเหตุการณ์ ที่น่ากลัวมากๆ ถ้าหากมาเกิดขึ้นกับเรา หรือคนในครอบครัว เพราะอาการเส้นเลือดแตกนั้น มันสามารถเกิดขึ้นได้ ด้วยหลายสาเหตุ แต่ส่วนมาก ก็มักจะชอบเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว หรือเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน วันนี้เราก็เลยมีวิธีหลีกเลี่ยงมาฝากกับทุกคน เพื่อที่จะได้เตรียมวิธีรับมือกันให้ดี

โรคหลอดเลือดสมอง ถือเป็นหนึ่งในโรคฉุกเฉิน เพราะมันคือภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะเนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก จึงส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำร้าย ดังนั้นการทำงานของสมองจึงหยุดชะงัก และโรคนี้ก็มีหลายปัจจัย

ที่ทั้งแบบสามารถป้องกัน และป้องกันไม่ได้อาทิเช่น เมื่ออายุเรามากขึ้น หลอดเลือดสมองจะเสื่อมตามไปด้วย หรือจะเกิดการแข็งตัวของเลือด เร็วกว่าปกติ ส่วนคนที่เสี่ยง ต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากที่สุด ก็คือผู้ที่มีความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หลอดเลือดแข็งทั่วร่างกาย ถ้าหากพบว่าคนใกล้ตัว

หรือคนในครอบครัวตนเองนั้น มีอาการเดินไม่ตรง มีอาการเซ ออกเสียงไม่ชัด พูดไม่ออก เอื้อมหยิบสิ่งของไม่ได้ ดูไม่มีแรง ชาบริเวณมือแขนขา มองภาพไม่ชัด สายตาพร่ามัว และมีอาการปวดศีรษะหรือเวียนศีรษะอย่างรุนแรง เมื่อพบสัญญาณอันตรายเหล่านี้แล้ว ควรให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างโดยด่วน

ลำดับขั้นความรุนแรงของอาการ

ในระยะแรก อาการเส้นเลือดตีบตัน เมื่อเกิดอาการในที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งแล้ว จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวกและติดขัด ดังนั้นสมองจึงได้รับออกซิเจนที่ไม่เพียงพออาการจึงได้เกิดขึ้น ทำให้ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการชาตามร่างกาย ตามมือ และตามเท้า หรืออาจะทำให้หมดสติได้

ส่วนในระยะที่สองคือ เส้นเลือดในสมองแตก ถ้าเกิดในระยะนี้ถือว่าเป็นระยะอันตรายแล้ว เพราะเนื่องจากมีเลือดออกสมอง ซึ่งนอกจากจะต้องรีบนำผู้ป่วยไปให้ถึงมือหมอให้เร็วที่สุดแล้ว ยังจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนอีกด้วย และด้วยเนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้ จะมีความเสี่ยงที่แย่ที่สุดแล้ว ยังอาจฟื้นตัวได้ช้ากว่าผู้ป่วยกลุ่มแรกมาก

สิ่งที่เราสามารถป้องกันได้อย่างเดียวก็คือ การหมั่นออกกำลังกาย และหมั่นไปตรวจสุขภาพอยู่เสมอ เพราะถ้าละเลยตรงจุดนี้ ก็มีโอกาสเสี่ยงได้ง่าย ที่เราจะเป็นโรคร้าย ถ้ารู้ตั้งแต่เนิ่นๆ มันก็ยังรักษา หรือแก้ไขทัน เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ จึงเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้เลย

s